“ขอนอนต่ออีกนิดนะ…” ประโยคยอดนิยมของหลาย ๆ คนที่ไม่สามารถลุกขึ้นจากเตียงนอนได้ในทันที ซึ่งถ้าเป็นการนอนต่อในช่วงวันหยุดหรือวันพักผ่อนก็คงจะไม่ส่งผลอะไรมากนัก แต่ถ้าหากใครมีภารกิจสำคัญที่จะต้องไปทำแล้วล่ะก็ สิ่งนี้คงสร้างปัญหาไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับหลาย ๆ คนที่ตั้งนาฬิกาปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น จะตั้งปลุกซ้ำกี่ครั้ง ก็ไม่ทำให้เราลุกขึ้นจากเตียงนอนได้
ดังนั้นในบทความนี้ ผู้เขียนจึงได้ทำการรวบรวมเคล็ดลับการตื่นนอน รวมถึงนาฬิกาปลุกยอดฮิต ที่ทำหน้าที่เหมือนเลขาประจำตัวในการปลุกให้เราตื่น และยังสามารถเลือกซื้อได้ง่าย ๆ ผ่านทางออนไลน์ได้อีกด้วย จะพิเศษและน่าสนใจขนาดไหน ตามมาชมกันเลย
ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักกับอาการ Oversleeping หรือการนอนเลยเวลากันก่อน เรียกง่าย ๆ ว่า นอกจากจะตื่นยากแล้วยังนอนต่อกันอีก ซึ่งการนอนที่เกินพอดีนี้ไม่เพียงกระทบต่อเวลางานเท่านั้น แต่มันยังสามารถลุกลามไปถึงเวลาชีวิตอันมีค่าของเราอีกด้วย
ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้เรารอดพ้นจากการบั่นทอนอายุขัยตัวเองก็คือต้องหาวิธีแก้ไขและปรับปรุงการตื่นนอนของตัวเอง ซึ่งก่อนจะไปดูวิธีจัดการกับอาการนี้ เรามาดูต้นเหตุของปัญหากันก่อนดีกว่า
อาการ Oversleeping มีที่มาจากหลากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นการออกแรงทำงาน ทำกิจกรรมอย่างเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งวัน การดื่มแอลกอฮอลล์ ปาร์ตี้ยามค่ำคืน การอดนอนเป็นเวลานาน การนอนหลับไม่เป็นเวลานานหรือการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ทั้งอาการซึมเศร้า ความกังวล และความเครียด ซึ่งส่งผลให้ร่างกายเกิดความล้าไม่สามารถปรับเวลาได้ และทำให้ต้องต่อเวลานอนไปเรื่อย ๆ
โดยผลที่ตามมาจากอาการ Oversleeping คือภาวะที่กันเรียกว่า การนอนมากเกินไป ( Hypersomnia ) ซึ่งนำไปสู่โรคภัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน ความดัน เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ปัญหากระดูกและข้อ กระเพาะอาหารไม่ย่อย มีภาวะซึมเศร้า สมองล้า เป็นคนไร้ชีวิตชีวา ฯลฯ เรียกได้ว่านอกจากจะได้นอนต่อยาว ๆ แล้ว ยังได้โปรโมชั่นปัญหาสุขภาพแถมฟรีกันยาว ๆ ด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ดี หากเรารู้ก่อนก็ไม่สายเกินไปที่จะหันมาใส่ใจแก้ไขปัญหานี้เพื่อที่จะได้ป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจตามมาในระยะยาว
สิ่งสำคัญอันดับแรกของการจัดระเบียบการตื่นนอน ก็คือ นาฬิกาชีวิต (Body Clock) หรือวงจรควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย การหลับการตื่นและการหลั่งของฮอร์โมนที่สำคัญขณะนอนหลับอย่างเมลาโทนิน (Melatonin) ซึ่งเมื่อระบบของนาฬิกาดังกล่าวแปรปรวนอันเนื่องมาจากปัจจัยภายใน-ภายนอก เช่น เปลี่ยนแปลงเวลางาน ความเครียด การใช้ยารักษาโรค ฯลฯ เราก็จะไม่สามารถนอนหลับหรือตื่นนอนได้ตามเวลาปกติ ส่งผลให้เกิดเป็นการ Oversleeping ในที่สุด
คุณภาพการนอนหลับของแต่ละคนจะแตกต่างกันไปตามช่วงอายุ แต่โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วง 6-8 ชั่วโมงก็ถือว่าเพียงพอแล้วในเบื้องต้น ดังนั้นเราควรเริ่มต้นจากการสังเกตนาฬิกาชีวิตของตัวเอง จัดตารางการนอนให้เหมาะสมและตื่นนอนในเวลาที่กำหนดให้เป็นกิจวัตรประจำวัน ไม่เว้นแม้แต่วันหยุด ที่สำคัญหลีกเลี่ยงการนอนต่อหลังตื่น เพื่อให้การตื่นนอนในทุก ๆ เช้าเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ยังมีรายงานพบว่าการรับแสงอาทิตย์หลังตื่นนอนเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง จะช่วยเซ็ตระบบของนาฬิกาชีวิตใหม่ และหากทำเป็นประจำ ก็จะทำให้ร่างกายตื่นเป็นเวลาโดยอัตโนมัตินั่นเอง
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอุปกรณ์เทคโนโลยีนั้นมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตประจำวันในปัจจุบันของเราอย่างยิ่ง แต่กลับมีหลายงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่าแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์อย่างคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเป็นสาเหตุทำให้ต่อมไพเนียลหยุดหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินซึ่งทำให้เรานอนไม่หลับ รวมไปถึงส่งผลเสียต่อสมองทำให้ประสิทธิด้านความจำและการเรียนรู้ลดลงอีกด้วย
ดังนั้นเราควรจัดการธุระของสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ให้เรียบร้อยก่อนเข้านอนอย่างน้อย 1 โมง รวมไปถึงปรับปรุงสภาพแวดล้อมไม่ให้ห้องนอนมีอุณหภูมิสูงเกินไป ลดแสงให้น้อยลง เพิ่มความผ่อนคลาย ก็จะช่วยให้เรานอนหลับได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
สำหรับวิธีแก้ไขปัญหาด่านสุดท้ายนั่นก็คือการใช้ตัวช่วยอย่าง “นาฬิกาปลุก” แล้วควรซื้อแบบไหนให้เราไม่สามารถนอนต่อได้? ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าแต่ละคนก็จะมีวิธีการปลุกที่ต่างกัน ดังนั้นการเลือกนาฬิกาปลุกก็จะแตกต่างกันไปตามความตกใจหรือการตอบสนองของแต่ละคนด้วย
เพราะนาฬิกาปลุกส่วนใหญ่มักถูกออกแบบมาให้มีเสียงดังเพื่อให้สมองของเราสามารถได้ยินเสียงในขณะที่กำลังหลับได้ จึงไม่เหมาะกับการใช้ในบ้านหรือคอนโดฯ ที่มีผนังค่อนข้างบางเพราะเสียงนั้นอาจจะไปรบกวนเพื่อนร่วมชั้นหรือคนในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างเพื่อนบ้านก็เป็นได้
ตรงนี้เองที่เราต้องนึกถึงสภาพแวดล้อมเป็นสำคัญ ในปัจจุบันนี้นอกเหนือจากนาฬิกาที่ใช้เสียงในการปลุกแล้ว บางยี่ห้อยังปลุกด้วยวิธีอื่น เช่น การใช้แสง การสั่นสะเทือน เป็นต้นด้วย ช่วยให้เราตื่นมาพร้อมความสร้างสรรค์และลดปัญหาที่จะเกิดกันคนรอบข้างได้ในคราเดียวกัน
แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากตื่นมาพร้อมกับความหงุดหงิดหรือความรำคาญใจ ดังนั้นการเลือกเสียงของนาฬิกาปลุกจึงจำเป็นมากเพราะนอกจากจะเกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตของเราแล้ว ยังส่งผลต่ออารมณ์ตลอดทั้งวันอีกด้วย โดยปัจจุบันไม่เพียงแต่เสียงกระดิ่งพื้นฐานอย่างเดียว ยังมีการปลุกด้วยเสียงธรรมชาติอย่างเสียงลำธาร น้ำตก เสียงนก หรือเสียงไก่ขัน ที่ช่วยให้การตื่นนอนของเราในแต่ละวันรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายได้นั่นเอง
สำหรับข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะปัจจุบันมีนาฬิกาปลุกที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการปิดเสียงหรือเลื่อนเวลา ซึ่งเจาะจงให้เราตื่นนอนมาหยุดการปลุกโดยเฉพาะ มีทั้งการใช้วิธีการเคลื่อนที่หรือฟังก์ชั่นการหยุดที่ซับซ้อนขึ้น เรียกได้ว่าเป็นทางเลือกปราบเซียนที่ชอบใช้ปุ่ม Snooze เพื่อต่อเวลานอนเลยทีเดียว
สำหรับ 10 อันดับ นาฬิกาปลุกยอดฮิตที่ผู้เขียนจัดมาให้ผู้อ่านในครั้งนี้ก็ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะนอกจากจะมีความสร้างสรรค์และฟังก์ชันที่หลากหลายแล้วยังสามารถหาซื้อออนไลน์กันได้อีกด้วย และนาฬิกาปลุกที่ไม่ธรรมดานี้จะมีอะไรบ้าง ตามมาชมกันเลย
เริ่มด้วยนาฬิกาปลุกที่ไม่มีเสียงดังรบกวนมากเกินไป ทำให้เราตื่นมาพร้อมกับความสดชื่นและความผ่อนคลายด้วยฟังก์ชันการปลุกเลียนเสียงธรรมชาติที่มีมาให้ถึง 6 เสียง มีจอแสดงตัวเลขเวลา วันที่และอุณหภูมิด้วยระบบดิจิทัล มาพร้อมไฟแบ็คไลท์ให้เลือกสรรอีกหลายสี สามารถใช้ได้ทั้งตั้งปลุกและตั้งโชว์เพื่อความสวยงามในคราวเดียว
นาฬิกาปลุกรุ่นเล็ก ขนาด 8x8x8 cm. ตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมกะทัดรัดทำให้จับถือได้อย่างถนัดมือ โดยถูกออกแบบมาให้เรืองแสงได้ถึง 7 สี แถมยังสามารถวัดอุณหภูมิภายในห้องและแสดงค่าด้วยระบบดิจิทัล ใช้งานง่าย ถึงแม้ว่าตัวเลขอาจจะไม่ชัดเจนบ้างเนื่องจากมีสีที่ค่อนข้างกลืนไปกับพื้นหลัง แต่ก็ถือว่าเป็นที่ชื่นชอบของผู้ใช้ไม่น้อยเลยทีเดียวโดยเฉพาะสายมินินอลทั้งหลาย
สำหรับใครที่ชอบดีไซน์คลาสสิกเรียบง่ายต้องห้ามพลาด เพราะนาฬิการุ่นนี้เรียกได้ว่าตอบโจทย์ความสะดวกสบายด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่โดดเด่นอย่าง Voice Control ซึ่งเราสามารถเคาะหรือใช้เสียงเพื่อให้นาฬิกาแสดงเวลาได้นานถึง 10 วินาที สามารถวัดค่าความชื้นและอุณภูมิได้ นอกจากนี้ยังปรับระดับแสงได้ถึง 3 ระดับ ทำให้การปลุกในแต่ละครั้งไม่เกิดแสงที่รบกวนค่าสายตามากเกินไป
นาฬิกาปลุกสุดสร้างสรรค์ ที่ท้าทายเซียนปุ่ม Snooze เป็นอย่างมาก เพราะรุ่นนี้มีฟังก์ชั่นการปลุกด้วยจอไฟกระพริบที่ให้โอกาสเรานอนต่อได้เพียงหนึ่งครั้ง โดยครั้งที่สองที่ไม่เพียงแค่ส่งเสียงปลุกเท่านั้น แต่เจ้าตัวนี้จะเคลื่อนไปมารอบ ๆ ห้อง ชนิดที่ว่าทั้งวิ่งและส่งเสียงไปพร้อมกัน จนกว่าเราจะตื่นมาหยุดด้วยตัวเอง นอกจากนี้ตัวเรือนยังมีขนาดเล็กกะทัดรัด ทนต่อแรงกระแทก สามารถตกจากที่สูงได้ถึง 3 ฟุต
อย่างไรก็ตามด้วยขนาดที่ค่อนข้างเล็กและเคลื่อนที่ได้ จึงทำให้ไม่เหมาะกับห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์เยอะหรือมีช่องว่างระหว่างของที่ลึกเกินไป เพราะอาจเกิดปัญหาการชนสิ่งของเสียหายหรือเข้าไปติดตามช่องว่างที่เอาออกได้ยากนั่นเอง
ยกธรรมชาติมาไว้ในห้องนอน ด้วยพระอาทิตย์จำลองจาก Philips ที่กว่า 92% ของผู้ใช้ พบว่าช่วยให้การตื่นนอนเป็นเรื่องง่ายขึ้น โดยเราสามารถเลือกใช้แสงได้กว่า 10 ระดับเข้ามาเป็นตัวช่วยในการปลุกได้อย่างลงตัว ซึ่งก่อนเวลาที่เราตั้งปลุก 30 นาที ไฟจากตัวเรือนจะค่อย ๆ เพิ่มแสงจำลองพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า เพื่อช่วยให้การตื่นนอนรู้สึกสดชื่นกว่าการตื่นนอนอย่างกะทันหัน รวมไปถึงการจำลองแสงพระอาทิตย์ตกดินเพื่อช่วยให้การนอนหลับสบายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังใช้เป็นโคมไฟอ่านหนังสือได้ด้วย แม้จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่สำหรับผู้ที่กำลังมองหาทั้งโคมไฟและนาฬิกาปลุกไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน รุ่นนี้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
เป็นอีกหนึ่งในนาฬิกาปลุกที่ถูกอกถูกใจบรรดาผู้ใช้อย่างยิ่ง แม้ว่าจะไม่ได้มีฟังก์ชั่นเสริมมากนัก แต่แบรนด์อย่าง SEIKO ก็ไม่ทำให้ผู้ใช้ผิดหวัง เพราะเน้นในเรื่องของความดังจริง ๆ ตัวเรือนเป็นพลาสติกสีดำสบายตา ใช้ระบบ Quartz ทำให้การเดินเข็มนาฬิกามีความแม่นยำสูงและไม่มีเสียงดังรบกวน รวมถึงมีพรายน้ำแสดงตัวเลขเวลา ทำให้ไม่มีแสงจากตัวเรือนรบกวนขณะนอนหลับ
แต่ด้วยเสียงที่ปลุกดังมาก จึงเป็นจุดสำคัญที่ต้องคำนึงถึงด้วยเพราะอาจทำให้เกิดปัญหาเสียงดังรบกวนคนรอบข้างหรือเพื่อนบ้านได้
สุดยอดนวัตกรรมของนาฬิกาจากแบรนด์จีนอย่าง XIAOMI ที่เป็นอีกทางเลือกสำหรับใครที่ไม่ชอบการปลุกด้วยเสียง เพราะเขาใช้ฟังก์ชั่นการปลุกด้วยการสั่นที่ข้อมือ เพื่อช่วยให้เราตื่นนอนได้สบายยิ่งขึ้นและไม่มีอาการตกใจจากเสียงปลุก แถมยังอัดแน่นไปด้วยฟังก์ชั่นเพิ่มเติมด้านสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการวัดชีพจร ตรวจวัดการนอนหลับ การนับระยะก้าว การสั่นเตือนเมื่อเราไม่ได้เคลื่อนที่เป็นเวลานาน หรือแม้แต่แจ้งเตือนแอปพลิเคชันต่าง ๆ บนมือถือก็สามารถทำได้เช่นกัน
ทั้งนี้ผู้ใช้จะต้องทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Mi Fit มาไว้ในมือถือเพื่อใช้เชื่อมต่อกับนาฬิกาแล้วจึงจะสามารถใช้งานได้
มาที่นาฬิกาปลุกสุดสร้างสรรค์ ที่ถูกขนานนามให้เป็นนาฬิกาปลุกที่ทำให้ลุกจากเตียงได้เร็วที่สุด แม้ว่าลักษณะภายนอกจะเหมือนพรมเช็ดเท้าทั่วไป แต่ต้องบอกเลยว่าเป็นพรมที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ เพราะเราจะต้องทำการยืนอยู่บนพรมเป็นเวลา 3 วินาที เพื่อหยุดการปลุก และถ้าใครที่คิดจะใช้เท้าแตะๆเพื่อให้หยุดล่ะก็ คุณคิดผิด! เพราะภายในพรมนี้มีระบบเซนเซอร์เท้าของเรา นั่นคือต้องยืนเต็มเท้าเท่านั่นถึงจะหยุดปลุกได้
นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมด้วย USB เข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่อเลือกเสียงปลุกที่เราต้องการ และใครที่ในตอนกลางคืนชอบลุกเข้าห้องน้ำ เจ้าตัวนี้ก็ยังสามารถเรืองแสงช่วยบอกเวลาได้อีกด้วย
สำหรับการตื่นนอนสุดท้าทาย ก็ต้องยกให้นาฬิกาปลุกประเภทนี้เลย เพราะนอกจากจะได้เสียงปลุกในตอนเช้าแล้ว ยังเป็นการจำลองสนามยิงปืนในห้องนอนด้วย โดยเมื่อถึงเวลาที่เราตั้งปลุกเอาไว้ เป้ายิงที่ตัวเรือนก็จะตั้งขึ้นพร้อมกับเซนเซอร์จากจุดศูนย์กลางเป้า ทำหน้าที่จับทิศทางความแม่นยำจากปลายกระบอกปืน ในขณะที่เรามีหน้าที่แค่ตื่นมายิงเป้าเพื่อหยุดเสียงปลุกให้ได้ ถือเป็นรูปแบบใหม่ของการเรียกสติในการตื่นนอนเลยก็ว่าได้
นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกเสียงเพื่อใช้ปลุก หรือจะเปลี่ยนไปเป็นโหมดเกมส์แก้เครียดก็สามารถทำได้ดีเลยทีเดียว
และแล้วก็มาถึงอันดับหนึ่งแห่งนวัตกรรมของการปลุก ซึ่งรุ่นนี้ใช้การปลุกเพียงแค่ 2 รูปแบบเท่านั้นแต่การรันตีว่าเราหลับต่อไม่ได้แน่นอน เพราะเริ่มต้นด้วยเสียงปลุกทั่วไปแต่พิเศษที่ความดังระดับ 113 เดซิเบล ซึ่งถ้าใครนึกไม่ออกว่าดังขนาดไหน ให้ลองนึกถึงการเจาะถนนในเขตก่อสร้างเป็นตัวอย่าง และสามารถปรับโทนเสียงสูงต่ำได้ตามความต้องการ แถมด้วยระบบสั่นสะเทือนรุนแรงแบบ Super Shaker ที่ออกแบบมาเพื่อใช้รองรับการปลุกผู้ที่หูหนวกได้ด้วย เรียกได้ว่าทั้งดังทั้งแรงจนเราลุกจากเตียงนอนกันไม่ทันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามนาฬิกาปลุกรุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่คนเดียวหรือมีพื้นที่ส่วนตัวซะส่วนใหญ่ เพราะด้วยเสียงและแรงสั่นที่รุนแรงราวกับแผ่นดินไหว จึงมีแนวโน้มว่าอาจทำให้เพื่อนร่วมห้องหรือเพื่อนข้างห้องตื่นมาต่อว่าเอาได้
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับนาฬิกาปลุกที่นอกจากจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้เรามีวินัย ตรงต่อเวลา ไม่ผิดนัด ช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพจากการนอนที่จะตามมาแล้ว ยังมีดีไซน์รูปแบบที่หลากหลายให้เราได้เลือกใช้เป็นอุปกรณ์ตกแต่งบ้านตามไลฟ์สไตล์อีกด้วย
สำหรับวันนี้ผู้เขียนต้องขอลาไปก่อน หวังว่าทุกคนจะได้นาฬิกาปลุกที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เราตื่นมาพร้อมกับความสดชื่นและเต็มไปด้วยความสดใสในทุก ๆ วันนั่นเอง
